ทอบุญ

อาคารไม้กึ่งปูนที่อำเภอสันกำแพงหลังนี้ เป็นที่ก่อกำเนิดแบรนด์ “ทอบุญ” กระเป๋าที่ทำจากผ้าไทยผสมหนังแท้ที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ท่ามกลางวิถี Natural Ambient Atelier ล้อมรอบไปด้วยป่าสักให้ความร่มรื่นและเย็นสบาย ด้านหน้าเรือนมีโถงทำงานที่เปิดโล่งให้อากาศถ่ายเทเหมาะสำหรับการทำงานย้อมและทอ แบ่งสัดส่วนชัดเจน ตั้งแต่โซนเก็บเส้นใย โซนย้อม และโซนทอที่มีกี่ทอผ้าเรียงราย มีตั้งแต่ 4 ตะกรอ ไปจนถึง 12 ตะกรอ เรามองผ้าที่ทอค้างอยู่บนกี่อย่างสนใจ ด้วยไม่เคยเห็นลวดลายแบบนี้ที่ไหนมาก่อน รวมไปถึงการให้สีสันที่ดูร่วมสมัยนั้นด้วย

ไม่รอช้าที่จะขอพูดคุยกับคุณบุญทวี เจริญพูนสิริ หรือคุณบุญผู้ก่อตั้งแบรนด์ จริงๆ แล้วเธอเป็นมีพื้นเพเป็นชาวกรุงเทพมหานคร ธุรกิจเดิมเป็นบริษัทด้าน Product design Agency ด้วยความที่เป็นคนที่ลุ่มหลงในเรื่องของกระเป๋าและมีความสนใจในวิธีการผลิตกระเป๋าของอิตาลีมาก จึงตัดสินใจไปเรียนเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจในตอนนั้น เมื่อเป้าหมายชัดเจนการเดินทางจึงเริ่มต้น มิลานคือเป้าหมายแรก เพราะที่นั่นมีสถาบันที่ทำงานแฟชั่นให้กับแบรนด์ดังๆ ของยุโรปที่ขึ้นชื่อ “วันที่ได้เรียนรู้จากผู้ที่ออกแบบให้หลากหลายแบรนด์ทั่วโลกทำให้เรารู้สึกว่ามัน powerful และให้พลังเรามาก ได้พบเจอดีไซเนอร์แบรนด์ที่มีชื่อเสียง ทำให้เราตั้งความฝันว่า ฉันจะเป็นดีไซเนอร์กระเป๋าที่ดีให้ได้” คุณบุญกล่าว

ด้วยความมุ่งมั่นที่เต็มเปี่ยม เธอเรียนที่ Milan 1 ปี จากนั้นได้ไปเที่ยวที่ Florence ภูมิภาคทัสคานีของอิตาลี ที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกระเป๋าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของยุโรป จึงตัดสินใจเรียนต่อที่ Scandicci ซึ่งที่นั่นมีสถาบันที่สนับสนุนด้านเงินทุนโดยแบรนด์ดังหลายแบรนด์ เช่น Gucci Prada ที่เขาส่งเสริมให้เกิดการผลิตช่างฝีมือเครื่องหนังป้อนสู่ตลาดแรงงาน การขอเข้าเรียนที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเขาจะไม่สอนให้กับคนที่ไม่มีสัญชาติยุโรป จึงตัดสินใจเรียนกับอาจารย์ที่รับสอนแบบ Private เรียนตั้งแต่เบื้องต้น ตัดกระดาษ ตัดหนังจนถึงการเย็บด้วยเครื่องจักร และด้วยมือ และเสริมด้วยการทำงานจริงในสตูดิโอที่รับผลิตกระเป๋าเครื่องหนัง โดยใช้เวลาเรียนที่นี่อีก 1 ปีเต็ม

เมื่อกลับมาเมืองไทยตัดสินใจ มาเชียงใหม่ พกความมั่นใจและความเป็น Artist ด้านการทำกระเป๋ามาเต็มเปี่ยม ได้ไปเที่ยวแหล่งทอผ้า ทั้งโรงทอและชุมชน ได้มีโอกาสพูดคุยกับช่างทอผ้า ไปรับรู้ว่าโรงทอเขากำลังจะปิดก็ใจหาย คุณบุญบอกว่านานมาแล้วเคยมาเที่ยวเชียงใหม่ แต่ยังคงมีความทรงจำที่อยู่ในใจเกี่ยวกับผ้าและการทอผ้ามาตลอด ชอบเสน่ห์ของผ้าท้องถิ่น พอได้ยินเรื่องราวจากช่างทอก็รู้สึกเศร้าและเสียดาย ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งส่วนตัวและธุรกิจจึงตัดสินใจยกบริษัทเดิมให้ครอบครัวดำเนินการต่อ และเลือกที่จะปักหลักอยู่เชียงใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ชีวิตเลือกได้” ทั้งเลือกที่จะใช้ชีวิตที่นี่และเลือกที่จะใช้ผ้าทอท้องถิ่น อยากนำเสน่ห์ภูมิปัญญาผ้าทอมือที่เป็นอีกหนึ่งมรดกของไทยมาผสมผสานกับงานฝีมือช่างชั้นสูงในการทำกระเป๋าเครื่องหนังแท้ เรียกได้ว่านำความประณีตและความวิจิตรมารวมไว้ในกระเป๋าหนึ่งใบ สิ่งที่คิดและตอกย้ำกับตัวเองมาตลอดคือ “ผ้าทอเราสวยมีเสน่ห์ทางวัฒนธรรม เราต้องประกาศไปให้ไกลๆ ให้ทั่วโลก”

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายของนักออกแบบคนนี้ ผู้ที่พิถีพิถันทั้งการเลือกวัตถุดิบ การผลิต เธอพัฒนาเรื่องผ้าและทีมทอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พบคุณมงคล แซ่ก้วย มาจากจังหวัดราชบุรี ซึ่งขณะนั้นทำงานผ้าไหมอยู่ คุณมงคลเป็นช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการทอผ้ามาก ได้ปรึกษาหารือจนกลายมาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญในปัจจุบัน “พูดเหมือนง่าย แต่กว่าเราสองคนจะมาเป็นพาร์ทเนอร์กันนั้น มีเรื่องราวให้น่าจดจำมากมาย และใช้เวลาอยู่นานทีเดียว” คนหนึ่งถนัดด้านการทอ อีกคนถนัดด้านออกแบบและการผลิต เมื่อจับคู่กันการทำงานก็รื่นไหล ถือได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ คุณบุญถึงกับบอกว่า “เขาเสกผ้าให้บุญได้ทุกอย่าง ตามที่บุญออกแบบ”

เริ่มต้นธุรกิจในปี 2011 โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Hand By Boon เปิดตัวสินค้าครั้งแรกที่งาน NAP ซึ่งเป็นงาน Art&Craft ที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่ ก็ได้รับการยอมรับดีมากทั้งเรื่องดีไซน์และคุณภาพ ครั้งนั้นได้พบกับผู้ซื้อจากฝรั่งเศสและอเมริกา มีคำสั่งซื้อตั้งแต่ออกงานครั้งแรกและเป็นลูกค้าต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งก็ยิ่งตอกย้ำถึงเส้นทางที่ตนเองเลือก การเดินทางของ Hand By Boon จึงขยายไปที่งานแสดงสินค้าอื่นๆ อีกหลายงาน พร้อมกับจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ซื้อจากหลายแบรนด์ทั่วโลก นอกจากกระเป๋าหลากหลายขนาดและดีไซน์ ก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น รองเท้า เข็มขัด หมวก เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ในปี 2013 มีลูกค้าชาวจีนนำชื่อ Hand By Boon ไปจดลิขสิทธิ์ในประเทศจีน แต่อุปสรรคมีไว้แก้ไข จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Tor Boon “ซึ่งเราชอบชื่อนี้มาก กระเป๋าที่ทอบุญให้กับภูมิปัญญาวัฒนธรรมผ้าไทย เป็นความหมายที่ดี และบ่งบอกถึงเป้าหมายของเราได้ดีว่าเราจะถักทอเพื่อเผยแพร่ ส่งต่อคุณค่าและวัฒนธรรมผ้าไทยที่สวยสง่างามนี้ผ่านกระเป๋าของทอบุญให้กับคนทั่วโลกได้รู้จัก” คุณบุญกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

จากการใส่ใจในขบวนการผลิต ทั้ง เรื่อง คุณภาพการตัดเย็บด้วยฝีมือช่างเครื่องหนังระดับสูง การออกแบบที่คำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัตถุดิบที่ย่อยสลายได้ หรือ Bionic Degradable มากกว่า 85% ทำให้ทอบุญได้รับใบรับรองตราสัญลักษณ์ G GREEN ระดับ ZILVER ที่เป็นตราสัญลักษณ์ที่รับรองว่าเป็นผู้ผลิตที่มีกระบวนการการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในส่วนของผลิตภัณฑ์ก็ได้รับรางวัลการันตีมากมาย อาทิเช่น Prime Minister Award 2018 , Chiang Mai Design Awards

คุณบุญทิ้งท้ายกับเราไว้อย่างน่าสนใจว่า “เมื่อเรามี Value Creation เราก็ต้องส่งต่อผู้ใช้ให้ได้รับรู้ ได้ภูมิใจกับวัฒนธรรมเราด้วย ดังนั้น ทอบุญจึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารในเรื่องคุณค่าของผ้าทอมือของไทยให้กับชาวต่างชาติได้รับรู้ และในส่วนของบ้านเราเองทอบุญยินดีที่จะส่งต่อความรู้เชิงช่างที่ได้ร่ำเรียนมาด้วยการเปิดหลักสูตรสอนการทำกระเป๋าให้กับผู้ที่สนใจในราคาที่ย่อมเยาว์กว่าที่จะบินไปเรียนเอง ถือเป็นการตอบแทนหรือคืนกำไรให้กับสังคมด้วยค่ะ”